ค่าใช้จ่ายโดยรวมขององค์กรเมอร์เซเดส เบนซ์ กรังด์ปรีซ์ ลิมิเต็ด (Mercedes-Benz Grand Prix Limited) ที่ดูแลทีมแข่งในฟอร์มูล่า วัน นั้น มีรายได้ลดลงจาก 324.9 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 13645.8 ล้านบาท ในปี 2020 ลดลงเหลือ 297.4 ล้านปอนด์ หรือ ประมาณ 12490.8 ล้านบาท ในปีที่แล้ว ถึงแม้ว่าจะมีการขยายปฏิทินการแข่งขันจาก 17 เพิ่มเป็น 22 สนาม ก็ตาม ตามรายงานจาก Dafabet
นี่จะเป็นตัวเลขที่รวมค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากที่ถูกจำกัดไว้ แต่การที่ค่าใช้จ่ายโดยรวมลดลงไป 27.4 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1150 ล้านบาท ทั้ง ๆ ที่มีการแข่งขันเพิ่มขึ้น นั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าทีมแข่งจะต้องมีการปรับตัวมากพอสมควรกับการจำกัดงบประมาณ อย่างไรก็ตาม มันช่วยให้พวกเขาทำตัวเลขกำไรโดยรวมเพิ่มขึ้น จาก 13 ล้านปอนด์ ในปี 2020 เป็น 68.8 ล้านปอนด์ ในปี 2021
องค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ผลกำไรของพวกเขาเพิ่มขึ้นคือ การเพิ่มขึ้นของมูลค่าการซื้อขาย หรือก็คือการมีรายได้เพิ่มขึ้นจากสปอนเซอร์และเงินส่วนแบ่งของเอฟวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 355.3 ล้าน ปอนด์ เป็น 383.3 ล้านปอนด์
นั่นทำให้บริษัทแม่อย่าง เมอร์เซเดส เบนซ์ เอจี ไม่จำเป็นที่จะต้องสมทบทุนการทำทีมเพิ่ม อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทแม่ยังคงจัดหาเงินทุนให้กับองค์กร เมอร์เซเดส เอชพีพี ที่แยกจากกัน ซึ่งทีมแข่งเอฟวัน นั้นจะซื้อเครื่องยนต์จากองค์กรนี้
ในปี 2020 ผ่านมา เมอร์เซเดส เบนซ์ กรังด์ปรีซ์ มีจำนวนบุคลากร 1,063 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2019 ที่มี 1,016 คน แต่เมื่อเข้าสู่ปี 2021 บุคลากรของพวกเขาก็ลดลงเหลือเพียง 1,004 คน ที่น่าเจ็บปวดคือ จำนวนที่ลดลงนั้นเป็นบุคลากรที่ทำงานด้านการออกแบบและวิศวกรรม พวกเขาถูกปลดออกหรือถูกโยกย้ายเนื่องจากต้องทำทีมให้อยู่ภายใต้กฎทางด้านงบประมาณที่ถูกจำกัด
เมื่อส่องเข้าไปดูรายละเอียด กลุ่มบุคลากรข้างต้นนั้นลดลงจาก 906 คน ในปี 2020 เหลือเพียง 831 คน ในปี 2021 แต่ในทางตรงกันข้าม บุคลากรในส่วนอื่น ๆ ที่ไม่ถูกจำกัดโดยกฎทางด้านงบประมาณ เพิ่มขึ้นจาก 157 คน ในปี 2020 เป็น 173 คน ในปี 2021 ซึ่งกลุ่มบุคลากรในส่วนนี้มีตั้งแต่ ทรัพยากรบุคคล, กฎหมาย, และ บัญชี พวกเขาถูกจ้างเข้ามาเพิ่มเพื่อช่วยให้ทีมจัดการกับงานที่เพิ่มขึ้นมา จากการที่ต้องเฝ้าดูและตรวจสอบในเรื่องของงบประมาณที่ถูกจำกัด
ด้าน โตโต้ วูล์ฟฟ์ กล่าวว่า “มันเป็นเรื่องที่เจ็บปวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณได้ยินการพูดคุยกันของทีมงาน” สิ่งที่เกิดขึ้นในเอฟวัน คือ การกำหนดวงเงินในการใช้จ่ายในส่วนที่อยู่ในจุดศูนย์กลางการใช้จ่ายในทีม เราต้องปรับโครงสร้างและเปลี่ยนแปลงกระบวนการของเรา ในการลดจำนวนคนที่ทำงานซ้ำซ้อนออกไป เพื่อให้เรามีการใช้จ่ายอยู่ภายใต้งบประมาณที่ถูกจำกัด”
“ในฐานะองค์กรที่มีการใช้จ่ายทางด้านวิศวกรรม เพื่อให้ได้มาซึ่งประสิทธิภาพสูงสุด และจู่ ๆ ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่จำเป็น ต้องวิเคราะห์ตั้งแต่กระบวนการซื้อไปตลอดจนถึงกระบวนการผลิต การขนส่ง และการติดตั้งบนรถ และจัดลำดับความสำคัญให้กับสิ่งที่คุณจะทำกับรถ นั่นเป็นเรื่องที่ยากลำบากและเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่ง”
ดาฟาเบท รายงานว่า ยังถือว่าบุคลากรทางด้านการออกแบบและวิศวกรรมยังมีความโชคดีอยู่บ้าง เนื่องจากเมอร์เซเดส นั้นเป็นองค์กรใหญ่ที่มีกิจกรรมในหลาย ๆ ด้าน พวกเขาส่วนใหญ่จึงยังรักษางานเอาไว้ได้ โดยการโยกย้ายไปทำงานในส่วนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับ F1
