สตีฟ เคอร์ หัวหน้าโค้ช โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส ออกมาชี้แจงกรณีถูก เควิน ดูแรนท์ ลูกน้องเก่าวิจารณ์เรื่องจำกัดสิทธิ์การขึ้นเกมบุกด้วยตัวเองระหว่างเพลย์ออฟ 2019 ว่าเป็นเรื่องปกติเพราะยิ่งแข่งรอบลึกคู่ต่อสู้ยิ่งกันเหนียว เล่นหนัก ดังนั้นบาสฯชายเดี่ยวไม่เวิร์ก
ดูแรนท์ เวลานี้สลับไปสวมเครื่องแบบ บรู้กลิน เน็ตส์ จึงกล้าวิจารณ์ วอร์ริเออร์ส ในหลายประเด็นหนึ่งในนั้นคือโดนโค้ชเคอร์ จำกัดการขึ้นเกมด้วยตัวเองในช่วงโพสต์-ซีซั่น ถือว่าเป็นสิ่งขัดใจเขามากจนนำมาพิจารณาเรื่องย้ายออกจาก เบย์ แอเรีย
โดนด่าข้างเดียวแบบนี้โค้ชเก๋าไม่ยอมแน่ เมื่อจบภารกิจช่วยบาสฯทีมชาติสหรัฐฯแข่ง เวิลด์ คัพ 2019 ทางโค้ชดีกรีแชมป์ 3 สมัย ต้องชี้แจงผ่าน ดิ แอธเลติค ถึงเรื่องนี้ว่า
“ผมคงไม่โต้แย้งเรื่องที่ เควิน พูดไปเพราะโดยพื้นฐานแล้วมันคือความจริง – คุณต้องมองเกมให้เป็นระบบ” เคอร์ เริ่มปกป้องตัวเอง
“ที่ผมจะสื่อคือตัวเองเคยเล่นในแผน ไทรแองเกิ้ล ออฟเฟนส์ (ครั้งเป็นผู้เล่น ชิคาโก บูลล์ส) ร่วมกับ ไมเคิ่ล จอร์แดน การบุกแต่ละครั้งมันไหลลื่นมาตลอดฤดูกาลปกติ – แล้วมันก็ยิ่งดีๆขึ้นในการเพลย์ออฟ รอบแรก จนถึงรอบลึกๆและนัดชิงฯ ก็ยังเข้าท่า”
“แน่นอนนักกีฬาแบบ ไมเคิ่ล จอร์แดน, โคบี้ ไบรอันท์ และ เควิน ดูแรนท์ เก่งอยู่แล้ว พวกเขาทำลายเกมป้องกันคู่แข่งด้วยตัวเองสบายในเรกูล่า ซีซั่น แต่เมื่อเข้าเพลย์ออฟ ยิ่งรอบลึกๆ มันคือการผสานระหว่างรูปแบบการเล่นกันให้มีวินัย ผสานเล่นหนัก- แล้วผู้ตัดสินก็ไม่สามารถเป่าฟาวล์แจกได้ตลอดเวลา ดังนั้นความเป็นซูเปอร์สตาร์ ของคุณต้องถูกลดบทบาทลง”
“หากเล่นไม่เป็นระบบ มันไม่สามารถทำลายเกมป้องกันคู่แข่งใน เอ็นบีเอ ไฟนัลส์ เมื่อนั้นจึงต้องเสี่ยงเล่นบาสฯชายเดี่ยว อนึ่งผมไม่มองว่าความเห็นของเขาล้ำเส้น แต่มองว่าก็เป็นความจริงเช่นกัน”
ดูแรนท์ มาร่วมงาน วอร์ริเออร์ส เมื่อซัมเมอร์ 2016 พาทีมเข้าชิงฯ เอ็นบีเอ 3 ปีติด ได้มาสองแชมป์คือปี 2017 และ 2018 มาหัวทิ่มเอาฤดูกาลล่าสุดต่อ โตรอนโต แรปเตอร์ส แถมตัวเองก็เอ็นร้อยหวายพังต้องผ่าตัดพักแรมปี