เออร์วิ่ง แมจิค จอห์นสัน อดีตแชมป์เอ็นบีเอ 5 สมัย เทียบเคียงการระบาดของโคโรน่าไวรัสในัจจุบัน กับการระบาดของไวรัสเอชไอวี เมื่อต้นทศวรรษ’90 ว่าส่งผลร้ายแรงต่อชีวิตไม่ต่างกัน อีกทั้งการเข้าถึงข้อมูลในช่วงแรกก็นับว่าน้อยมาก
ปัจจุบันมีติดโคโรน่าไวรัสสะสมทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 2.1 ล้านราย เสียชีวิตทะลุ 134,000 คน ทั้งที่เพิ่งระบาดเมื่อปลายปี 2019 เท่านั้น
ซึ่ง แมจิค ที่ผ่านประสบการณ์ช่วงระบาดของไวรัสทั้งสองชนิดเผยว่าอุปสรรคสำคัญที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิตมากขนาดนี้เพราะการเข้าถึงข้อมูลไม่มากพอ โดยเฉพาะกับชุมชนคนผิวสี
“เรายังมีปัญหาเดียวกับเมื่อก่อนอย่างไรอย่างนั้น เพราะได้ข้อมูลผิดๆ ความเข้าใจต่อโรคก็น้อยเพราะมันไม่เคยเกิดกับชุมชนคนผิวสีมาก่อน รวมถึงไม่ได้รับการศึกษาต่อโคโรน่าไวรัสมากพอ เฉกเช่นเดียวกับตอนระบาดของเอชไอวี” จอห์นสัน ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ ‘อีเอสพีเอ็น’
ตำนานการ์ดแอลเอ เลเกอร์ส เผยอีกว่าเพื่อนสนิทเขาติดไวรัสโควิด-19 เวลานี้รักษาตัวอยู่โรงพยาบาล มันยิ่งตอกย้ำว่าจำเป็นต้องร่วมมือกับลีกเอ็นบีเอกระตุ้นให้คนแอฟริกัน-อเมริกันตระหนักว่าโคโรน่าไวรัสอันตรายเพียงใด
“เราจำเป็นต้องเป็นแนวหน้าในการกระตุ้นเตือน นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมผมแฮปปี้เมื่อเห็นเอ็นบีเอพูดว่า – เราต้องทำอะไรสักอย่างกับมันเพราะส่วนใหญ่ใครกันลงไปแข่งบนคอร์ท? นักกีฬาแอฟริกัน-อเมริกันเกือบทั้งหมด แล้วคนกลุ่มไหนที่สนุกกับกีฬานี้? คนแอฟริกัน-อเมริกัน – พวกเราคนดำรักเกมบาสฯ ดังนั้นเรื่องต้านไวรัสจึงสำคัญสุด ณ ตอนนี้”
ตั้งแต่ลีกระงับแข่งเมื่อ 11 มี.ค.ทางฝ่ายบริหารก็พยายามให้ข้อมูลประชาสัมพันธ์การดูแลตัวเองแก่สาธารณชน โดยมีการเชิญอดีตนักบาสฯ หรือผู้เล่นปัจจุบันไลฟ์ผ่านอินสตาแกรม ให้ความรู้ย้ำเตือนตลอด
พร้อมกันนนั้นยังตั้งกองทุน เอ็นบีเอ ทูเกเตอร์ ช่วยเหลือผู้รับผลกระทบจากการระบาดของโคโรน่าไวรัส ตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ 76 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
