ปอล ป็อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสเปิดใจว่าตอนช่วงปี 2018 ที่ทะเละกับ โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตผจก.ทีม แมนฯ ยูไนเต็ด นับเป็นมรสุมของชีวิต ซึ่งกว่าจะผ่านมาได้ก็ต้องปลีกวิเวกทบทวนตัวเองจนฝ่าฟันยืนหยัดในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ถึงทุกวันนี้ ตามรายงานจาก Dafabet
“ป็อก” มีความไม่ลงรอยกับ มูรินโญ่ คาดว่าเหตุผลมาจากเล่นขาดวินัยบนสนามและติดโซเชี่ยลมีเดีย จนปรากฏภาพโต้เถียงกันระหว่างซ้อม กระทั่งท้ายสุดเป็นกุนซือโปรตุกีสโดนไล่ออกปลายปีเดียวกันนั้น
ซึ่งดาวเตะวัย 29 ปีเผยว่าช่วงเวลาอึมครึมกับลูกพี่เก่าก็ส่งผลกระทบทางจิตใจต่อเขาเช่นกัน
“ผมก็มีช่วงมรสุมอาชีพนักเตะ แต่ไม่อยากเอ่ยถึงมัน” การเปิดปากกับ ‘เลอ ฟิกาโร’
“บางครั้งคุณก็ไม่ทราบว่าตัวเองเป็นใคร อยากเพียงปลีกวิเวกอยู่ลำพัง ซึ่งนั่นคือสัญญาณความผิดปกติ”
“โดยส่วนตัวมันเริ่มขึ้นตอนทำงานร่วมกับ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ ยูไนเต็ด คุณต้องคำถามกับตัวเอง, ข้องใจว่าคือความผิดเราหรือเปล่าเพราะไม่เคยมีประสบการณ์แบบนั้นมาก่อนในชีวิต”
“พวกนักกีฬาระดับหัวกะทิต่างเคยผ่านช่วงเวลาเช่นนั้นแต่น้อยคนกล้าพูดถึงมัน แล้วพอเกิดขึ้นก็หลีกเลี่ยงไม่ได้จะส่งผลต่อสภาพร่างกาย, ความหว้าวุ่นในหัว อาจต้องอยู่อย่างนั้นเป็นเดือนๆหรือบางรายเป็นปีๆ ที่ออกอาการไม่ดี”
“แต่เราไม่จำเป็นต้องยกเป็นข้ออ้าง บอกเล่าต่อสาธารณะ”
“นักฟุตบอลเราหาเงินได้มาก ดังนั้นก็ไม่ควรบ่นเรื่องนั้น ซึ่งการจะก้าวผ่านช่วงเวลาดังนั้นมันก็ไม่มีอุปสรรคใดมาขัดขวางให้ทำได้อย่างกว่าเรื่องอื่นๆ เฉกเช่นความลำบากที่ทุกๆคนต้องเผชิญ”
“เพราะคุณมีรายได้สูง มันจำเป็นต้องมีความสุขเสมองั้นหรือ? ชีวิตไม่ได้เป็นแบบนั้น โลกของฟุตบอลก็มิอาจหลีกเลี่ยงเพราะที่สุดแล้วเราไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่ ก็แค่มนุษย์เดินดินเหมือนกัน”
ดาฟาเบท รายงานว่า ป็อกบา เวลารับใช้ทีมชาติฝรั่งเศสดูมีความสุขและเปิดเผยขึ้นมากอย่างพีเรียดมี.ค.อุ่นเครื่อง 2 นัดพบ ไอวอรี่โคสต์ และ แอฟริกาใต้