โนวัค ยอโควิช นักเทนนิสมือ 1 โลกจากเซอร์เบีย เปิดใจความพ่ายแพ้ต่อสองนักหวดรุ่นใหญ่ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ กับ ราฟาเอล นาดาล บ่อยครั้ง รวมถึงแมตช์สำคัญในฝรั่งเศส เกือบทำให้ตัดสินใจต้องแขวนแร็กเกตเลิกเล่นในอดีต ตามรายงานจาก Dafabet
ยอโควิช ปัจจุบันนี้ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ แกรนด์ สแลม 17 สมัย แชมป์ระดับอาชีพ 79 รายการ พร้อมกับครองตำแหน่งมือ 1 โลก ทว่าจะมาถึงจุดนี้ไม่ได้ถ้าเจ้าตัวเลิกเล่นเมื่อปี 2010
เหตุการณ์เกิดขึ้นรอบ 8 คนสุดท้าย เฟรนช์ โอเพน ที่ฝรั่งเศส ยอโควิช เผชิญหน้า เจอร์เกน เมลเซอร์ นักหวดจากออสเตรีย ทั้งสองสู้กันดุเดือดก่อนเป็น “โนเล่” พ่ายแพ้ 2-3 เซต ตกรอบแบบเจ็บปวด
หวดวัย 32 ปี เล่าวันวานที่เจ็บปวดจนเกือบตัดสินใจเลิกเล่น ก่อนเปลี่ยนใจภายหลังว่า “การพ่ายแพ้ครั้งนั้นเป็นเรื่องยากจะทำใจ ผมร้องไห้หลังจากตกรอบ เป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายจนผมอยากเลิกเล่นเทนนิส เพราะผมเห็นทุกอย่างดำมืดไปหมด”
“ผมได้แชมป์ ออสเตรเลียน โอเพน ปี 2008 ผมขึ้นมือ 3 ของโลก แต่ก็ไม่มีความสุขเพราะรู้ว่าต้องทำได้มากกว่านี้ แต่ผมก็แพ้ให้กับ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และ ราฟาเอล นาดาล ในแมตช์สำคัญเสมอ”
“หลังจบแมตช์นั้น ผมรู้สึกเป็นอิสระขึ้น ผมโยนความกดดันทั้งหมดออกไป เริ่มเล่นอย่างดุดัน แล้วนั่นก็คือจุดเปลี่ยน” ยอโควิช ที่ปีนี้ฟอร์มโดดเด่นชนะ 18 แมตช์รวด ไม่แพ้ใครตั้งแต่เปิดซีซัน กล่าวผ่าน ดาฟาเบท